วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2552

การเลือกซื้อ Flashdrive

การเลือกซื้อ Flashdrive
ตัวบอดี้ และการออกแบบในส่วนต่างๆใครจะว่าการออกแบบไดรฟ์ประเภทนี้ไม่สำคัญ ผมขอเถียงสุดติ่งเลยครับ เพราะว่าไดรฟ์พวกนี้ต้องนำไปพกพา และยังต้องเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ต USB อีกด้วย ต้องให้ความสำคัญกันมากๆ หน่อย เพราะมีคนซื้อมาแล้ว ไม่สามารถเสียบเข้ากับ USB พอร์ตได้ เพราะตัวไดรฟ์มันอ้วน ดันไปติดกับสายเมาส์ และสายคีย์บอร์ด ดังนั้นการพิจารณาในเรื่องของการออกแบบนี้โดยต้องดูกันตั้งแต่วัสดุที่ใช้กันเลยครับ ส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกนั่นแหละ บางยี่ห้อก็ดีหน่อยบีบๆ แล้วรู้สึกแข็งดี บางยี่ห้อบีบแล้วมันงอๆ ได้ แต่ก็ราคาถูกกว่า นอกจากนี้ตรงอินเทอร์เฟส (หัวเชื่อมต่อ)ของไดรฟ์มีวัสดุที่ปิดเอาไว้หรือไม่ บางยี่ห้อก็มีให้เป็นพลาสติกใสๆ บางยี่ห้อก็จะเป็นสีเดียวกับตัวไดรฟ์เลย ควรดูด้วยครับว่า ปิดแน่นสนิท หรือว่าหลุดง่ายหรือไม่ ฝาปิดตรงนี้ค่อนข้างสำคัญครับ เพราะถ้าคุณสังเกตให้ดีตรงหัวสำหรับเชื่อมต่อ มันจะมีร่องอยู่ด้านในด้วย ถ้าอะไรหลุดเข้าไปติดคงสร้างความเสียหายให้กับไดรฟ์ได้ไม่น้อย เผลอๆ จะลามไปถึงเจ้าพีซี หรือโน้ตบุ๊กที่คุณใช้อยู่ด้วยครับ ซึ่งมีหลายๆ ยี่ห้อ เขาก็ออกแบบฝาปิดแบบ ให้หายได้ยากหน่อย คือ มีจุดเชื่อมกับตัวไดรฟ์เอาไว้เลย ป้องกันการหายได้ ส่วนต่อไปเป็นเรื่องของขนาดของไดรฟ์ครับ ขนาดของไดรฟ์มีผลต่อการพกพาเป็นอย่างมาก เพราะยิ่งใหญ่ ยิ่งหนัก ยิ่งเกะกะ ไดรฟ์บางรุ่นที่มีความสามารถหลายๆ อย่างจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ครับ ทำให้เวลาเราเอาไปเสียบกับพอร์ต USB มันจะเสียบเข้าไปลำบาก และบางครั้งก็เสียบไม่ได้เลยก็มี ดังนั้นผู้ผลิตเขาก็ได้ให้สายสำหรับเชื่อมต่อมาให้เพิ่มเติม เวลาใช้งานก็นำสายสำหรับเชื่อมต่อมาเสียบเข้ากับพอร์ต USB ก่อน แล้วเอาเจ้าไดรฟ์มาเสียบกับสายนี้อีกที ก็สะดวกในระดับหนึ่งครับ แต่นึกถึงว่า เวลาเราต้องไปไหนมาไหนบ่อยๆ แล้วต้องมาพกสายอีก คงไม่สะดวกนักครับ ถ้าคุณจัดอยู่ในประเภทผู้ใช้ที่ต้องพกพาไปใช้ที่อื่นบ่อยๆ หลีกเลี่ยงไดรฟ์ที่มีขนาดใหญ่ๆ เอาไว้เป็นดีที่สุดครับ นอกจากนี้การออกแบบไดรฟ์ ยังได้เพิ่มความสามารถในการนำมาห้อยคอไว้ด้วย ซึ่งจะมีช่องสำหรับร้อยสายห้อยคอมาให้ ไดรฟ์บางรุ่นที่สามารถเล่นเพลง MP3 ได้ด้วย อาจจะทำสายห้อยคอให้เป็นหูฟังไปในตัวด้วยเลย ส่วนนี้ต้องลองไปดูของจริงที่ร้านค้าครับ เพราะผมคงบอกได้ลำบาก เนื่องจากคอของแต่ละคนมีขนาดไม่เท่ากัน น้ำหนักที่รองรับได้ก็ต้องต่างกันครับ ถ้ามันหนักมากๆ ก็เอาใส่กระเป๋าจะดีกว่า ในส่วนนี้ ก็ลองพิจารณากันดูนะครับ
ขนาดความจุเท่าไหร่ดี?นั่นสิครับ เท่าไหร่ดีหล่ะ ผมเองก็ตอบแทนไม่ได้เหมือนกัน ถ้าถามผมว่าจะเอาไดรฟ์พวกนี้มาใช้แทนแผนดิสก์เก็ตจะเลือกความจุเท่าไหร่ดี ผมคงบอกว่า 8 เมกะไบต์ ก็พอแล้วพี่ เพราะว่าแผ่นดิสก์เก็ตมันจุแค่ 1.44 เมกะไบต์ เท่านั้นเอง แต่ดูออกจะขวานผ่าซากเกินไปหน่อย การพิจารณาก็ให้คำนึงถึงความต้องการใช้งานของคุณนั่นแหละครับว่า จะเอาไปใส่อะไรบ้าง ถ้าเป็นคนชอบฟังเพลง ดาวน์โหลดเพลงเอ็มพี สาม จากอินเทอร์เน็ตมาฟังเป็นประจำ คงต้องเลือกความจุ 128 เมกะไบต์ ขึ้นไปครับ ถ้าเป็นคนที่ต้องเก็บไฟล์งานต่างๆ ที่พิมพ์ด้วยโปรแกรมประเภทเวิร์ดต่างๆ 64 เมกะไบต์ ดีที่สุดครับ สำหรับงานกราฟิกต้อง 512 เมกะไบต์ ถึงจะเพียงพอครับ อีกอย่างหนึ่งเวลาไปซื้อ ผมแนะนำให้พิจารณาเรื่องขนาดความจุกับราคาด้วย เพราะบางครั้งการที่เราเพิ่มเงินอีกเพียง ไม่กี่ร้อยบาท แต่ได้ความจุเพิ่มมาเท่าตัว มันคุ้มค่ากว่านะครับ ส่วนความจุขั้นต่ำที่ผมแนะนำให้ซื้อหามาใช้ตอนนี้ก็คือที่ 128 เมกะไบต์
ที่มา:http://www.webthaidd.com/flashdrive/webthaidd_article_898_1.html ลองเข้าไปดูกันนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น